-
ประวัติมหาวิทยาลัย
ความเป็นมาก่อนจัดตั้งมหาวิทยาลัย
___การจัดตั้งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นของวิวัฒนาการจากการจัดการศึกษาวิชาเกษตรของประเทศ
ซึ่งเริ่มในระบบโรงเรียนวิชาชีพ ในสมัยเริ่มแรก อาจแบ่งออกได้เป็น
3 ระยะดังนี้
___1)
ระยะต้น (พ.ศ. 2447-2456) เป็นระยะก่อตั้งระบบการศึกษาวิชาเกษตร
ให้เป็นระบบโรงเรียนของไทย เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ในปี
พ.ศ. 2447 เมื่อ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม
องค์อธิบดีกรมช่างไหมในกระทรวงเกษตราธิการ ได้ทรงจัดตั้งโรงเรียนช่างไหมขึ้น
ณ ท้องที่ตำบล ทุ่งศาลาแดง กรุงเทพมหานคร ในบริเวณเดียวกันกับส่วนหม่อน
และสถานีทดลองเลี้ยงไหม โดยจัดการศึกษาหลักสูตร 2 ปี
สอนเกี่ยวกับวิชาการ เลี้ยงไหมโดยเฉพาะ ต่อมาใน พ.ศ.
2449 ได้ขยายหลักสูตรเป็น 3 ปี โดยเพิ่มวิชาการเพาะปลูกพืชอื่น
ๆ เข้าในหลักสูตร ตลอดจนได้เริ่มสอนวิชา สัตวแพทย์ด้วย
และได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียน เป็นโรงเรียนวิชาการเพาะปลูก
___
ในปี พ.ศ. 2451
กระทรวงเกษตราธิการ ได้รวมโรงเรียนที่อยู่ในสังกัด 3
โรงเรียนคือโรงเรียนแผนที่ (จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2425)
โรงเรียนกรมคลอง (จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2448) และโรงเรียนวิชาการเพาะปลูก
เป็นโรงเรียนเดียวกันเพื่อผลิตคนเข้ารับราชการในกรมกองต่าง
ๆ ของกระทรวงเกษตราธิการ โดยใช้ชื่อโรงเรียนว่าโรงเรียนกระทรวงเกษตราธิการ
และย้ายสถานที่ตั้งมารวมกัน ณ พระราชวังสระปทุม พร้อมกับได้ให้เรียบเรียงหลักสูตรใหม่ซึ่ง
ถือได้ว่าเป็นหลักสูตรระดับอุดมศึกษาวิชาเกษตรศาสตร์
หลักสูตรแรกของประเทศไทยได้เริ่มดำเนินการสอนหลักสูตรใหม่นี้ในปี
พ.ศ. 2452 ในปี พ.ศ. 2456 รัฐบาลได้ยกโรงเรียนกระทรวงเกษตราธิการไปรวมเข้ากับโรงเรียนข้าราชการพลเรือน
ด้วยเหตุที่วัตถุประสงค์ของโรงเรียนกระทรวง เกษตราธิการตรงกับพระราชดำริในการจัดตั้งโรงเรียนข้าราชการพลเรือน
ซึ่งได้ทรงจัดตั้งขึ้นในกระทรวงธรรมการงานการศึกษาวิชาเกษตรศาสตร์
จึงมาสังกัดกระทรวงธรรมการ
___2)
ระยะกลาง (พ.ศ. 2457-2466) เป็นการจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูประถม-กสิกรรม
เจ้าพระยาธรรศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา)
เสนาบดี กระทรวงธรรมการได้จัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมหอวัง
ณ บ้านสวนหลวง กรุงเทพมหานคร โรงเรียนนี้รับผู้จบชั้น
ม.3 (เปลี่ยนเป็น ม.6 ในระยะต่อมา) เข้าศึกษาในหลักสูตร
2 ปี เพื่อรับประกาศนียบัตรประโยคครูประถมกสิกรรม (ปป.ก.)
และในปี พ.ศ. 2461 ได้ย้ายที่ตั้งไปอยู่ที่ตำบล พระประโทน
อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
___3)
ระยะปลาย (พ.ศ. 2467-2485) เป็นการขยายโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมไปสู่ทุกภาค
โดยได้ย้ายโรงเรียนจากตำบลพระประโทน จังหวัด นครปฐม
ไปตั้งที่ตำบลบางสะพานใหญ่ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เมื่อปี พ.ศ. 2467 และจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมขึ้นใหม่
อีกแห่งหนึ่งที่ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
ในปี พ.ศ. 2469 ต่อมาการจัดการศึกษาวิชาเกษตรในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
นั้น ได้ดำเนินการในรูปแบบของโรงเรียนประถมวิสามัญกสิกรรม
และโรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมหลายแห่ง
___ในปลายปี
พ.ศ. 2474 หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร อธิบดีกรมตรวจกสิกรรมในกระทรวงเกษตราธิการ
ทรงดำริว่าควรจัดตั้งสถานีทดลองกสิกรรมขึ้นที่ ภาคอีสาน
ภาคใต้และภาคพายัพ พร้อมกับโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม
เพื่อให้งานวิจัยการเกษตรดำเนินควบคู่ไปกับการให้การศึกษาในสาขา
เกษตรศาสตร์ จังได้จัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมกับสถานีทดลองกสิกรรมตามภาคต่าง
ๆ มีผลให้กระทรวงเกษตราธิการจัดการศึกษาวิชา เกษตรศาสตร์ใหม่
___ในปี
พ.ศ. 2476 จัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมโนนวัด
ตำบลโนนสูง อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา และโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม
แม่โจ้ ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
___ในปี
พ.ศ. 2477 จัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมคอหงษ์
ตำบลคอหงษ์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
___แนวคิดในการดำเนินงานสถานีทดลองกสิกรรมควบคู่กับโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมทั้ง
3 แห่ง นับได้ว่าเป็นต้นแบบอย่างอันดียิ่งของการประสาน
ระหว่างงานวิจัยทดลองและงานศึกษา หัวหน้าสถานีและอาจารย์ใหญ่ชุดแรก
ได้แก่ หลวงอิงคศรีกสิการ (ที่โนนวัด) หลวงสุวรรณวาจกกสิกิจ
(ที่คอหงส์) และพระช่วงศิลปการ (ที่แม่โจ้)
___ในปี
พ.ศ. 2478 นโยบายการศึกษาสาขาเกษตรศาสตร์ได้เปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง
กล่าวคือรัฐบาลในขณะนั้นเกรงว่าจะมีการผลิตครูเกษตรเกินความ
ต้องการของประเทศ จึงมีดำริที่จะยุบโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมทั้ง
3 แห่ง หลวงอิงคศรีกสิการ หลวงสุวรรณวาจกกสิกิจ และพระช่วงเกษตร
ศิลปการจึงได้ร่วมกันเสนอโครงการให้คงโรงเรียนฝักหัดครูประถมกสิกรรมที่แม่โจ้
พร้อมกับจัดตั้งโรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมขึ้นแทนซึ่งต่อมา
ได้ยกฐานะขึ้นเป็นวิทยาลัย ชื่อ "วิทยาลัยเกษตรศาสตร์"
มีฐานะเป็นกองวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในกรมเกษตรและประมง
ผู้ที่ได้รับแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการคนแรกของวิทยาลัยได้แก่พระช่วงเกษตรศิลปการ
___ในปี
พ.ศ. 2478 กระทรวงเกษตราธิการได้จัดตั้งโรงเรียนวิชาชีพเฉพาะขึ้นอีกแห่งหนึ่งที่จังหวัดแพร่
คือโรงเรียนป่าไม้ ซึ่งเปิดสอนหลักสูตร 2 ปี และ ได้โอนกิจการไปเป็นส่วนหนึ่งของวิทยาลัยเกษตรศาสตร์พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนวนศาสตร์
___ในปี
พ.ศ. 2481 กระทรวงเกษตราธิการได้จัดตั้งสถานีเกษตรกลางขึ้นในท้องที่
อำเภอบางเขน กรุงเทพมหานคร อันเป็นที่ตั้งวิทยาเขตหลักของ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปัจจุบัน และได้ย้ายวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จากแม่โจ้มาบางเขน
มีหลวงสุวรรณวาจกกสิกิจเป็นผู้อำนวยการวิทยาลัย เปิดสอนหลักสูตร
3 ปี ในระดับอนุปริญญา โดยมี 3 แผนก คือแผนกเกษตรศาสตร์กับแผนกสหกรณ์
ซึ่งเปิดสอนที่บางเขน (สำหรับนักศึกษาแผนก สหกรณ์ ชั้นปีที่
3 ต้องไปเรียนที่กรมสหกรณ์ ท่าเตียน เพื่อสะดวกในการอบรมวิชาภาคปฏิบัติ)
และแผนกวนศาสตร์ซึ่งเปิดสอนที่โรงเรียนวนศาสตร์ จังหวัดแพร่
(ต่อมาโรงเรียนวนศาสตร์ได้แยกดำเนินกิจการในลักษณะเดิมอีกตั้งแต่
พ.ศ. 2499)