[ : KPS Campus : ][ : SRC Campus : ][ : ChalermpraKait : ][ : Supanburi Campus : ][ : Lopburi Campus : ][ : Krabi Campus : ]
:: ข้อมูลทั่วไป ::
:: การบริหาร ::
:: วิชาการ ::
:: งานวิจัย ::
:: หน่วยงาน ::
:: วิธีการเข้าศึกษาใน มก. ::
:: สำหรับสินิต ::
:: สำหรับบุคคลากร ::
:: ข่าวและกิจกรรม ::
:: สำนักบริการคอมพิวเตอร์ ::
:: นานาสาระ ::
:: เสียงสู่อธิการบดี ::
:: สำนักหอสมุด ::
:: เกษตรศาสตร์ของเรา ::

 

หน้าแรก > ข้อมูลทั่วไป > Timeline > มหาวิทยาลัยในทศวรรษที่สาม (พ.ศ. 2506-2515)

Timeline

  • มหาวิทยาลัยในทศวรรษแรก (พ.ศ. 2486-2495)
  • มหาวิทยาลัยในทศวรรษที่สอง (พ.ศ. 2496-2505)
  • มหาวิทยาลัยในทศวรรษที่สาม (พ.ศ. 2506-2515)
  • มหาวิทยาลัยในทศวรรษที่สี่ (พ.ศ. 2516-2525)
  • มหาวิทยาลัยในทศวรรษที่ห้า (พ.ศ. 2526-2535)

  • มหาวิทยาลัยในทศวรรษที่สาม (พ.ศ. 2506-2515)

    ___ในปี พ.ศ. 2506 ในด้านการจัดการศึกษาได้มีการปรับหลักสูตรระดับปริญญาตรีที่เป็นหลักสูตร 5 ปี มาเป็นหลักสูตร 4 ปี ยกเว้นสาขาวิทยาสัตว แพทยศาสตร์ยังคงเป็นหลักสูตร 6 ปี นอกจากนี้ก็ได้กำหนดให้จัดหมวดหมู่สาขาวิชาที่ทำการสอนอยู่ในมหาวิทยาลัยให้เป็นเพียง ๔ สาขาวิชา คือ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาสัตวแพทยศาสตร์ และสาขาวิชาศิลปศาสตร์ เพื่อประโยชน์ในการจัดเรียกประเภทปริญญา ในปี พ.ศ. 2509 มีการจัดตั้งคณะใหม่และปรับปรุงเปลี่ยนชื่อของคณะต่าง ๆ ดังนี้

    ก. จัดตั้งคณะเพิ่มขึ้น 2 คณะ คือ

    1) คณะวิทยาศาสตร์และอักษรศาสตร์ ประกอบด้วย 6 แผนกวิชาคือ
    ______- แผนกวิชาเคมี
    ______- แผนกวิชาคณิตศาสตร์
    ______- แผนกวิชาชีววิทยา
    ______- แผนกวิชาฟิสิกส์
    ______- แผนกวิชาภาษา
    ______- แผนกวิชาสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์

    2) คณะวิศวกรรมศาสตร์ ประกอบด้วย 6 แผนกวิชาคือ
    ______- แผนกวิชาชลศาสตร์และอุทกวิทยา
    ______- แผนกวิชาวิศวกรรมเกษตร
    ______- แผนกวิชาวิศวกรรมเครื่องกลและไฟฟ้า
    ______- แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
    ______- แผนกวิชาวิศวกรรมชลประทาน
    ข. คณะกสิกรรมและสัตวบาล เปลี่ยนชื่อเป็น "คณะเกษตร" ประกอบด้วย ๘ แผนกวิชาคือ
    - แผนกวิชากีฏวิทยาและโรคพืช
    - แผนกวิชาเกษตรกลวิธาน (เดิมชื่อ แผนกวิศวกรรมเกษตร)
    - แผนกวิชาคหกรรมศาสตร์ (เดิมชื่อ แผนกเคหเศรษฐศาสตร์)
    - แผนกวิชาพืชศาสตร์ (เดิมชื่อ แผนกเกษตรศาสตร์)
    - แผนกวิชาวิทยาศาสตร์การอาหาร
    - แผนกวิชาเกษตรนิเทศ
    - แผนกวิชาสัตวบาล
    - แผนกวิชาปฐพีวิทยา

    ค. คณะวนศาสตร์ แบ่งส่วนราชการใหม่เป็น ๖ แผนกวิชาคือ
    - แผนกวิชาการจัดการป่าไม้
    - แผนกวิชาชีววิทยาป่าไม้ (เดิมชื่อ แผนกพฤกษศาสตร์กับแผนกสัตววิทยา)
    - แผนกวิชาวนวัฒนวิทยา (เดิมชื่อ แผนกวนวิทยา)
    - แผนกวิชาวิศวกรรมป่าไม้ (เดิมชื่อ แผนกวิศวกรรมวนกิจ)
    - แผนกวิชาอนุรักษวิทยา
    - แผนกวิชาวนผลิตภัณฑ์

    ง. คณะประมง แบ่งส่วนราชการใหม่เป็น 4 แผนกวิชาคือ
    - แผนกวิชาชีววิทยาประมง
    - แผนกวิชาประมง
    - แผนกวิชาผลิตภัณฑ์ประมง (เดิมชื่อ แผนกผลิตภัณฑ์)
    - แผนกวิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (เดิมชื่อ แผนกเพาะเลี้ยง)

    จ. คณะเศรษฐศาสตร์สหกรณ์เปลี่ยนชื่อเป็น "คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ" ประกอบด้วย 7 แผนกวิชาคือ
    - แผนกวิชาการตลาด
    - แผนกวิชาบัญชี
    - แผนกวิชาบริหารธุรกิจ
    - แผนกวิชาเศรษฐศาสตร์
    - แผนกวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร
    - แผนกวิชาสหกรณ์
    - แผนกวิชาสถิติ

    ฉ. คณะสัตวแพทยศาสตร์ แบ่งส่วนราชการใหม่เป็น 6 แผนกวิชาคือ
    ____- แผนกวิชากายวิภาคศาสตร์
    - แผนกวิชาพยาธิวิทยา (เดิมชื่อ แผนกพยาธิวิทยา และ วิทยาบักเตรี)
    - แผนกวิชาเภสัชวิทยา
    - แผนกวิชาศัลยศาสตร์
    - แผนกวิชาสรีรวิทยา
    - แผนกวิชาอายุรศาสตร์

    ในปี พ.ศ. 2512 ส่วนราชการที่เรียกว่า "แผนกวิชา" เปลี่ยนชื่อเรียกเป็น "ภาควิชา" นอกจากนี้ได้มีการจัดตั้งคณะใหม่คือ "คณะศึกษาศาสตร์" ประกอบด้วย 3 ภาควิชาคือ
    - ภาควิชาการศึกษา
    - ภาควิชาพลศึกษา
    - ภาควิชาอาชีวศึกษา

    ในด้านการพัฒนากลไกการดำเนินงาน ใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. 2511ซึ่งได้กำหนดให้มีส่วนราชการระดับคณะ ซึ่งมิได้ มีหน้าที่หลักด้านการดำเนินการสอน อันเป็นผลให้มี การจัดตั้งสำนักงานอธิการบดี (เพื่อการบริหารงานทั่วไป) บัณฑิตวิทยาลัย (เพื่อการประสานงาน จัดการศึกษาระดับสูงกว่าปริญญาตรี) สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร (เพื่อการวิจัย) และสำนักส่งเสริมและฝึกอบรม (เพื่อการส่งเสริม วิชาการ) พระราชบัญญัติฯ ฉบับใหม่นี้ได้ยุบเลิก ตำแหน่งเลขาธิการมหาวิทยาลัย และเปิดทางให้แต่งตั้งรองอธิการบดีฝ่ายต่าง ๆ ได้ตามความจำเป็น และเหมาะสม

    ในด้านการพัฒนามหาวิทยาลัย ได้มีการจัดทำโครงการพัฒนามหาวิทยาลัย โดยใช้เงินกู้ธนาคารโลก เป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง ซึ่งมหาวิทยาลัยได้เริ่ม ดำเนินงานก่อสร้างในปีสุดท้าย ของทศวรรษที่สามนี้ (พ.ศ. 2515) และเป็นผลให้มหาวิทยาลัยมีพื้นที่ สำหรับดำเนินกิจการด้านการเรียนการสอน และการวิจัยเพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่งคือ "วิทยาเขตกำแพงแสน" ตำบลทุ่งกระพังโหม อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม มีเนื้อที่ 7,814 ไร่ โตกว่าวิทยาเขตบางเขนประมาณ 10 เท่าตัว และอยู่ห่างจากวิทยาเขตบางเขนไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 80 กิโลเมตร นับเป็นวิทยาเขต และสถานีวิจัยหลักในภาคตะวันออกแห่งแรก

    Kasetsart University of Thailand
    หน้าแรก || ค้นหาข้อมูล || ติดต่อ
    Copyright (C) 2002. Kasetsart University
    Revised : June, 2002
    Contact WebMasTeR of Kasetsart University