Page 183 - รายงานประจำปี 2561
P. 183
รายงานกิจการ ประจำาปี 2561
สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำากัด
กันเอง (เพื่อปกป้องการค้ากำาไรจากนายทุน) โดย 2. ผู้ใช้บริการเงินกู้ ก็ต้องเป็นสมาชิกหรือ
มิได้หวังเงินปันผลจากกำาไรเป็นสำาคัญ แต่เมื่อมีกำาไร เจ้าของสหกรณ์ด้วยเช่นกัน ผู้กู้เป็นผู้ที่ต้องเสีย
เกิดขึ้นก็ควรจะต้องมาพิจารณาจัดสรรให้เจ้าของ ดอกเบี้ยจากการกู้และจะมีส่วนเหลื่อมจากทุน (ทุน
หรือผู้ถือหุ้นก่อน เรือนหุ้น-อัตราเงินปันผล) เพื่อเป็นกำาไรของสหกรณ์
อัตราเงินปันผลควรจะต้องไม่น้อยกว่า แต่ในเมื่อดอกเบี้ยเงินกู้ 5.9% แต่อัตราเงินปันผล
อัตราดอกเบี้ยเงินรับฝากสูงสุด เพราะหุ้นสหกรณ์ 6.5% ก็แสดงว่าสหกรณ์ขาดทุนอยู่แล้ว 0.6% ยิ่งให้
ราคาหุ้นละ 10 บาทคงที่ และถอนออกไม่ได้ อัตรา เฉลี่ยคืน 37% จากดอกเบี้ย 5.9 % ก็จะเหลือดอกเบี้ย
ดอกเบี้ยเงินรับฝากของสหกรณ์ขณะนี้มากที่สุด เงินกู้สุทธิจริงๆ เพียงแค่ประมาณ 3.7% สหกรณ์
ก็ 4.0% ถ้าปันผลให้ถึง 6.5% ก็นับว่าสูงมากแล้ว จะยิ่งขาดทุนไปอีกเป็น 5.9-3.7 = 2.2 % ด้วยซำ้า นี่
ถ้าสูงเกินไปก็จะเป็นการค้ากำาไรเกินควร ซึ่งผิด แสดงให้เห็นว่าถ้าสหกรณ์ใช้หุ้นเป็นทุนเพียงอย่าง
หลักการสหกรณ์อย่างยิ่ง และโดยเฉพาะสหกรณ์ เดียวอย่างสหกรณ์ใหม่ ๆ ก็คงจะบริหารจัดการอย่าง
ที่มีสินทรัพย์สูงมากเกินพอแล้วก็ควรจะส่งเสริม นี้ไม่ได้อย่างแน่นอน
การเพิ่มหุ้น เฉพาะผู้ที่ยังมีหุ้นตำ่ากว่าเกณฑ์เท่านั้น แต่ สอ.มก. เรามีเงินรับฝากอยู่ถึงประมาณ
คณะกรรมการควรจะได้ศึกษาเปรียบเทียบกับสหกรณ์ 25,000 ล้านบาท ซึ่งมีต้นทุนประมาณ 3.5% และ
ออมทรัพย์อื่นๆ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันด้วยว่าเขา มีทุนสำารอง 1,400 ล้านบาท ซึ่งไม่มีต้นทุนสหกรณ์
ปันผลกันในอัตราที่มากน้อยแค่ไหน จึงสามารถกำาหนดดอกเบี้ยเงินกู้ของสมาชิกได้เพียง
การนำาสหกรณ์อื่นมาเปรียบเทียบก็ควร 5.9% จากเงินที่สมาชิกกู้ทั้งหมดประมาณ 6,000
จะได้มองให้รอบด้านด้วยว่าแต่ละสหกรณ์มีความ ล้านบาท แล้วยังเฉลี่ยคืนจาก 5.9% ให้ถึง 37%
เป็นมาอย่างไร ซึ่งอาจจะแตกต่างกันออกไป มีสมาชิก เหลือดอกเบี้ยเงินกู้จริงเพียงแค่ 3.7%
บางท่านนำามากล่าวเปรียบเทียบ โดยไม่ได้ศึกษาใน เพราะสหกรณ์ได้นำาเงินฝากที่เหลือ ประมาณ
รายละเอียด 20,000 ล้านบาท ไปลงทุนทำากำาไรเพื่อนำามาปันผล-
191